วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2550

การเมืองเรื่องของทุกคน...คนนะไม่ใช่แมว

การเมืองเรื่องของทุกคน...คนนะไม่ใช่แมว
โดย บุญโชค พลดาหาญ

แสงตะวันลับฟ้า คืนที่ผ่านมาฟ้ามืดมิดไร้แสงสว่าง วันนี้เริ่มต้นวันใหม่อีกครั้ง มีแสงสว่างให้เห็นรำไร ทหารตั้งแถวกลับไปกรมกอง หลังจากยึดครองอำนาจทางการเมืองโดยการปฏิวัติ ที่อ้างเพื่อขจัดนักการเมืองที่เลวร้าย ป้องกันเหตุอันตรายต่างๆ จะตามมา มีการจัดหานายกรัฐมนตรีและมีรัฐบาลชุดใหม่ ฉีกรัฐธรรมนูญเก่าที่ทั่วโลกทั้งหลายยอมรับว่าดีที่สุดฉบับหนึ่งของโลกทิ้งไป ให้จัดทำ “รัฐธรรมนูญใหม่”ขึ้นมาใช้ เพื่อ“ทำลายระบบการเมืองให้อ่อนแอ จะได้ไม่ลุแก่อำนาจมีอำนาจล้นฟ้าทางรัฐสภา” (ทั้งๆที่เมืองไทยและทั่วโลกต่างอยากจะมีกันในระบบการเมืองที่เข้มแข็ง นโยบายต่างๆที่แถลงไว้จะได้เกิดมรรคเกิดผลอย่างเต็มที่) อันจะนำมาสู่การใช้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จ มีการหมกเม็ดทุจริตเชิงนโยบาย เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนทุจริตทั้งหลายขุดมาอ้าง “ได้กำหนดเลือกตั้งส.ส.ตามรัฐธรรมนูญใหม่ใน 23 ธันวาคม 2550 นี้ หวังที่จะให้ภาคประชาชนเข้มแข็ง” สามารถแสดงการถ่วงดุลอำนาจทางการเมืองได้ง่ายและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเสนอกฎหมาย, การตรวจสอบและถอดถอนนักการเมืองทั้งหลาย ให้องค์กรอิสระมีความเข้มแข็งถ่วงดุลอำนาจ เปิดทางให้ทหารเข้ามามีบทบาทสืบทอดอำนาจทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยด้วย

ในหนึ่งปีที่ผ่านมาชาติไทยเราไปไม่ค่อยได้สวยเท่าใด “จัดว่าเลวร้ายในสายตาชาวโลกและชาวบ้าน ผลการปฏิวัติทำเอาเศรษฐกิจและการเมืองถดถอย ปัญหาใหญ่น้อยยังแก้ไม่ได้” เหตุการณ์ความไม่สงบภาคใต้ยาบ้าและปัญหาสังคมเลวร้ายมากขึ้น นักวิชาการทั้งหลายตื่นตัวออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความหย่อนยานไม่เอาไหนในรัฐบาลขิงแก่และคณะปฏิวัติ ซึ่งไม่จัดเจนเรื่องการเมืองเรื่องแก้ปัญหา การแก้ปัญหาล่าช้าไม่ทันเกมส์ไม่ทันกาล มัวแต่ยุ่งกับงานเช็คบิลอดีตนายกรัฐมนตรีและพวกพ้อง ไม่ให้กลับมายึดครองอำนาจทางการเมืองได้อีกต่อไป

บัดนี้ได้เวลาที่พวกเราทุกคนต้องสำนึกรับผิดชอบทำหน้าที่ สืบทอดแนวทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ดีงามเอาไว้ อำนาจเผด็จการต้องหมดไป การเมืองที่โปร่งใสต้องคืนมา การเลือกตั้งส.ส.ในคราวนี้จึงถือว่ามีความหมายมาก หากไม่อยากให้ทหารกล่าวอ้างหาทางปฏิวัติ ว่ามีนักการเมืองสารพัดที่เลวร้าย มุ่งประโยชน์พรรคพวกทั้งหลายของตนเป็นที่ตั้ง อันจะทำให้บ้านเมืองล้าหลังตกต่ำย่ำแย่ ต่อไปนี้พวกเราจะต้องมุ่งเลือกแต่คนดีมีความรู้ความสามารถมีความสำนึกรับผิดชอบเข้าไปเป็นผู้แทน เพื่อสร้างระบบการเมืองระบอบประชาธิปไตยให้เหนียวแน่นและโปร่งใส เลือกคนที่มีหัวใจเป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้น ที่ยืนหยัดยืนยันฟังเสียงประชาชนและเอาผลประโยชน์ประชาชนส่วนรวมเป็นที่ตั้ง โดยไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตนส่วนพวกพ้องเป็นใหญ่ เราจะไม่เห็นแก่อามิสสินจ้างใดๆและพวกพ้อง ไม่เห็นแก่ผู้มีอิทธิพลที่ขอร้องฝากฝังกันมา ผู้ที่มองเห็นแล้วว่าไม่เอาไหนเราไม่เอา

พวกเราจะต้องเลือกคนดีมีความสามารถเข้าไปทำหน้าที่ส.ส. ไม่ใช่เลือกพอแล้วๆเลือกใครก็ได้เพราะเห็นแก่อามิสสินจ้างหรือเห็นแก่หน้า ส.ส.มีหน้าที่สำคัญที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ใคร ๆ ก็ทำหน้าที่ส.ส.ได้ทุกคน ส.ส.มีหน้าที่ในการสืบค้นหาปัญหา นำปัญหาทั้งหลายของประชาชนไปหาทางออกหาทางแก้ไข การวางแนวทางในการพัฒนา ที่เอาผลประโยชน์ประชาชนและของชาติเป็นที่ตั้ง โดยออกกฎหมายทั้งหลายให้เอื้อต่อการทำงาน, การควบคุมการทำงานฝ่ายบริหารคือรัฐมนตรี ให้มีการบริหารราชการแผ่นดินไปตามหน้าที่ ตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา, การการนำปัญหาของประชาชนมาเสนอให้แก้ไข และเสนอแนะให้ฝ่ายบริหารดำเนินการเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม, รวมทั้งมีหน้าที่เลือกตั้งถอดถอนนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ได้คนดีมีความรู้ความสามารถเป็นผู้นำรัฐบาล, การถอดถอนรัฐมนตรีให้ออกจากตำแหน่งหากแสดงความประพฤติบกพร่อง

ส.ส.ที่ดีจึงต้องเป็นคนดีมีความซื่อสัตย์สุจริต ประกอบสัมมาอาชีพที่ไม่ผิดกฎหมาย เป็นอาชีพที่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เป็นอาชีพที่ไม่บ่อนทำลายชาติ ต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถเข้าขั้น มีความชาญฉลาดวิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นคนมีนิสัยจิตใจบริการ รู้และเข้าใจปัญหาชาวบ้านปัญหาสังคมเป็นอย่างดี เป็นผู้ที่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย เลื่อมใสในสถาบันชาติ ศาสน์กษัตริย์ ศรัทธาในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ห่วงใยในปัญหาของชาวบ้าน มีการขับเคลื่อนผลักดันการแก้ปัญหาทุก ๆ เรื่องอย่างจริงใจเป็นปกติวิสัย ทั้งสู้ในภาคประชาสังคมและสู้ในระบบรัฐสภา การเสนอให้ออกกฎหมายมาเพื่อแก้ไข การควบคุมกำกับให้รัฐมนตรีและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้พิจารณา เป็นผู้กัดติดปัญหาไม่ปล่อย ชาวบ้านใหญ่น้อยทั้งหลายได้พึ่งพา ยืนหยัดอาสาต่อสู้ทุกเรื่อง ยอมเปลืองตัวเปลืองใจ เพื่อรับใช้ประชาชนรับใช้สังคม เป็นคนมีอุดมการณ์แน่วแน่

พ่อแม่พี่น้องทั้งหลายต้องร่วมแรงร่วมใจ ทำการเมืองให้เข้มแข็งพัฒนา “พวกเรามาร่วมกันสร้างร่วมกันเลือกนักการเมืองพันธุ์ใหม่ ที่มีหัวใจคือประชาชน คิดทุกอย่างทำทุกอย่างเพื่อปวงชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่อิงประชาชนเพื่อตนเองและพวกพ้อง ทหารต้องไม่ปฏิวัติ ซึ่งก็รู้อยู่ชัดๆแล้วว่าผลออกมาเลวร้ายเพียงใด การเมืองพัฒนาไปไม่ถึงไหน ต่างชาติเขาดูไปหัวเราะไป นี่หรือประเทศไทยที่จะเป็นเสือตัวที่ห้า ปัจจุบันภาพออกมาเป็นแค่แมวน้อยที่กำลังกัดกันเองแย่ง...สุดหน้าอาย ขอปลุกจิตสำนึกให้ทุกท่านรักชาติ รักประชาธิปไตย หากเรายังไม่พัฒนาการเมืองไม่ได้นักการเมืองที่พัฒนา ทหารออกมาวุ่นวาย คู่แข่งของไทยในภูมิภาคอาจจะเหลือแค่ลาว เขมร และพม่า นอกนั้นไม่ต้องถามหาเขาพัฒนาไปไกลไม่เห็นฝุ่น เพราะมัวแต่วุ่นวายเรื่องภายในปัญหาสังคมเศรษฐกิจตกต่ำสุดกู่ การพัฒนาหรือจะสู้ใครเขาได้โปรดเหลียวหลังแลหน้าและมองไปรอบข้าง ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกัน เลือกคนดีมีความรู้ความสามารถ มีความตระหนักรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ต่อบ้านเมืองเท่านั้นเข้าไปเป็นส.ส. ประเภทที่ตอแหลเห็นแก่ตัวไม่ใช่มืออาชีพตัดออกไป อย่างนี้ทำได้ไหม ทำการเมืองให้เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยที่ดีงาม”ครับผม

ไม่มีความคิดเห็น: