วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2550

เสวนาส่งเสริมการอ่าน ให้มีหนังสือสามัญประจำบ้านทุกครัวเรือน

เสวนาส่งเสริมการอ่าน ให้มีหนังสือสามัญประจำบ้านทุกครัวเรือน

โดย บุญโชค พลดาหาญ

จากการเสวนาภาคีเครือข่ายร่วมใจให้ห้องสมุด ทุกคนสุดตกใจที่คนไทยไม่อ่านหนังสือถึง 18 ล้านคน ทุกคนเห็นคุณค่าและความจำเป็น ที่จะเน้นการส่งเสริมการอ่าน โดยถือว่าเป็นงานของทุกคนที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกัน เป็นเครือข่ายการส่งเสริมการอ่านอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีที่ห้องสมุดประชาชน ที่กศน.เริ่มต้นไว้ดีแล้วลักษณะห้องสมุดมิติใหม่ โดยมีอบจ.เลยให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง ทั้งงบประมาณการติดแอร์และคอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ต ให้งบประมาณเบ็ดเสร็จกว่า20ล้าน ในการปรับปรุงห้องสมุดทั้ง 13 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งความรู้ที่ทันสมัย ซึ่งจะเติมงบประมาณให้ทุกปี ในส่วนหน่วยงานอื่นๆก็จะมีการสนับสนุนสื่อ และถือเป็นเครือข่ายไปจัดและส่งเสริมการอ่าน ทั้งภายในหน่วยงานและบริการแก่พี่น้องประชาชน

ผลของการเสวนาครั้งนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดี ทำให้มีภาคีเครือข่ายเข้าใจ และให้ความสำคัญการส่งเสริมการอ่านมากขึ้น เป็นการปลุกให้ตื่นขึ้นมาส่งเสริมการอ่านอย่างจริงจัง ทั้งกศน.โดยผู้เขียน(นายบุญโชค พลดาหาญ)ได้เอ่ยฝากความหวังจากอปท ขอให้ตั้งงบประมาณส่งเสริมการอ่าน ในลักษณะการซื้อหนังสือสามัญประจำบ้านให้ทุกครัวเรือน เพื่อใช้เป็นเพื่อนเป็นครูในการให้ความรู้ที่จำเป็น เช่นเนื้อหาการประกอบอาชีพทั้งหลาย รายละเอียดการจะใช้บริการจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งกฎหมายที่ควรรู้ การดูแลสุขภาพกายสุขภาพจิต การใช้ชีวิตที่ดีงามตามหลักธรรมของศาสนา หนังสือการ์ตูนหนังสือนิทานด้านส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมอันดี และมีหนังสือการใช้คอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ตเบื้องต้น หนังสือการตั้งชื่อคนและหมอดู เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และมีนิสัยรักการอ่าน ที่ทุกท่านทุกคนเข้าถึงง่ายเพราะมีอยู่ในทุกครัวเรือน เสมือนเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจ สงสัยอะไรมีเวลาว่างเมื่อไรจะได้เปิดอ่าน เป็นผู้รู้ประจำบ้านประจำครอบครัว

จังหวัดเลยมีจำนวนประชากร 653,921 คน, จำนวนครัวเรือน 158,756 ครัวเรือน, มี อบต. 89 อบต., มีเทศบาล 14 เทศบาล หากจัดงบประมาณซื้อหนังสือสามัญประจำครอบครัวให้ทุกครัวเรือน ๆ ละในวงเงินประมาณ 500 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 78 ล้านเศษ หากเฉลี่ยไปทุกอบต.ทุกเทศบาล ตามจำนวนกลุ่มเป้าหมายของตน ก็คงเป็นเงินแห่งละไม่เท่าไร ขาดเหลือหรือมีปัญหาใด ๆ อบจ.พี่ใหญ่เป็นผู้ให้การสนับสนุนเติมเต็ม เพราะปีหน้าเงินอุดหนุนจากรัฐมาเยอะ(อปท.ได้ 35%ของงบประมาณทั้งหมด,ภาครัฐได้ 65 %) เผลอๆอบจ.รับจัดให้ทั้งหมดก็ยังได้ รายละเอียดอบจ.ขอดูงบประมาณในภาพรวมอีกครั้งก่อน เพราะในกรอบงบประมาณ อบจ. 3 ปี จัดงบให้กศน. ในปี 2550-2552 เป็นเงิน 131 ล้าน แต่คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะนายกอบจ.เลยวิสัยทัศน์กว้างไกล พี่ชายพี่สะใภ้ก็เป็นส.ส.,ส.ว.,เป็นนักการศึกษากันทั้งนั้น ให้ความสำคัญด้านการศึกษาอย่างเต็มที่

เรื่องนโยบายกระทรวงศึกษาธิการที่จะรณรงค์ส่งเสริมการอ่าน "ให้ประชาชนอ่านหนังสือเฉลี่ยวันละ 5 นาที” หากให้เป็นไปได้ ต้องทำให้ทุกครอบครัวมีหนังสือที่เขาชอบ และมอบหนังสือที่จำเป็นที่เห็นว่าทุกคนต้องรู้ให้ทุกครอบครัว จัดสรรงบประมาณให้ถ้วนทั่วและต่อเนื่อง ทำเป็นเรื่องนโยบายสำคัญ ผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติเป็นแผนที่1 ซึ่งเป็นไปได้ และให้ทำแผน2ไว้ ทำข้อตกลง(MOU) กับกระทรวงมหาดไทย ให้กรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นสนองนโยบาย ขอให้ทุกอปท.สนับสนุนงบประมาณ ตามจำนวนครัวเรือนในพื้นที่ของตน เพื่อให้ได้ผลเต็มที่ ส่วนแผนที่3 ก็มีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับองค์ความรู้ต่างๆที่ทางหน่วยงานทำหนังสือเผยแพร่ความรู้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข,กระทรวงเกษตรและสหกรณ์,กระทรวงมหาดไทย ฯลฯ ซึ่งมีอยู่มากมาย

มีข้อแม้อย่างเดียวจะทำไหม ทำให้เป็นวาระแห่งชาติ หากเสนอแล้ว รมต.ศธ.ไม่เอา, นายกไม่เอา,ครม.ไม่เอา รีบเอามาประจานได้เลย ว่าที่แท้ที่เอ่ยว่าให้ความสำคัญของการศึกษา จะรณรงค์ส่งเสริมให้ทุกคนอ่านหนังสือ ส่งเสริมให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมฐานความรู้ ซึ่งดูโก้เก๋ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ....ที่กล่าวมานั้นโกหกทั้งเพ...

ไม่มีความคิดเห็น: