โดย บุญโชค พลดาหาญ
จากการที่กฎหมายรัฐธรรมนูญและพรบ.การศึกษาแห่งชาติฉบับปัจจุบัน ให้ทุกท่านทุกภาคส่วนล้วนจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ ซึ่งเป็นการกระจายอำนาจและระดมสรรพกำลัง มุ่งหวังการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ให้สถานศึกษาจัดการศึกษาได้ทั้ง 3 รูปแบบนั้น ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ให้มีการเทียบโอนผลการเรียนที่ผู้เรียนสะสมไว้ ในระหว่างรูปแบบเดียวกันหรือต่างรูปแบบกัน ไม่ว่าผลการเรียนนั้นจะมาจากสถานศึกษาเดียวกันหรือต่างสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้นอกระบบ ตามอัธยาศัย ในการฝึกอาชีพ หรือจากประสบการณ์การทำงาน ซึ่งในหลักการเป็นเรื่องที่ดี ที่จะทำให้การศึกษาสอดคล้องกับวิถีชีวิตไม่แปลกแยกจากวิถีชีวิต ผูกติดให้ชีวิต การทำงาน การศึกษา ถือว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้ทุกคนนั้นมีการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต แต่ทิศทางแนวทางดังกล่าวเอาเข้าจริง ๆ เป็นสิ่งที่นำไปสู่การปฏิบัติแทบไม่มี ที่จะให้สถานศึกษาจัดการศึกษาทั้ง 3 รูปแบบดังกล่าว
ชาวกศน.เลยได้พยายามทำความเข้าใจกับเครือข่าย บัดนี้ได้ “ท่านนายกสมศักดิ์ แสงเจริญรัตน์ แห่งเทศบาลเมืองเลย” ซึ่งอดีตเคยเป็น ส.ส.หลายสมัยผู้มีวิสัยทัศน์ยาวไกล ได้รับในหลักการและมอบให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายนั้นมาหารือแนวปฏิบัติร่วมกัน ได้ข้อสรุปอันน่าชื่นใจ ว่าทางเทศบาลเมืองเลยจะให้สถานศึกษาในสังกัดทั้ง 5 แห่งจัดการศึกษาทั้ง 3 รูปแบบหรือ 3 ระบบ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย โดยให้ทางกศน.เป็นพี่เลี้ยงเป็นที่ปรึกษา ทางเทศบาลเมืองเลยจัดงบประมาณมาดำเนินการเพื่อการนี้ เฉพาะที่ดำเนินการสอนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานในวิธีการเรียนแบบนอกระบบ จัดงบประมาณไว้ 435,600 บาท โดยจะจัดเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้นำชุมชน,กลุ่มคนที่เป็นลูกจ้างของเทศบาล ,กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มอสม.ในพื้นที่ หวังให้มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการไปศึกษาต่อระดับปริญญาต่อไป
และจะจัดอบรมคอมพิวเตอร์สำหรับผู้นำและกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว จัดงบประมาณเอาไว้ในรุ่นแรกเป็นเงิน 14,000 บาท และจะจัดงบประมาณให้เพิ่มเติมในรุ่นต่อ ๆ ไป หากมีผู้สนใจเพิ่มขึ้นมา รวมทั้งจัดงบประมาณแก้ปัญหาความยากจนแก่กลุ่มเป้าหมาย โดยมอบให้กศน.ช่วยจัดวิชาชีพ 5 วิชา จัดงบประมาณมาให้ 58,500 บาท เพื่อจัดสอนการทำเฟอร์นิเจอร์จากไม้, การนวดแผนไทย, การประดิษฐ์ดอกไม้จากดิน-การจัดดอกไม้สด, การทำอาหาร-ขนม, และตัดผมชาย
ในเรื่องความพร้อมของทางเทศบาล เท่าที่ได้หารือกันและร่วมออกประเมินความพร้อมของสถานศึกษา แทบจะไม่มีปัญหาใดๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านงบประมาณ ด้านบุคลากร ด้านอาคารสถานที่วัสดุอุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอน เพราะก่อนหน้านี้ทางเทศบาลได้มีการเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี โดยที่จัดงบประมาณมาพัฒนาสถานศึกษาแห่งละหลายสิบล้าน
ขอชื่นชมวิสัยทัศน์ท่านนายกสมศักดิ์ แสงเจริญรัตน์ และทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นท่านสท.ทั้งหลาย, ท่านรองนายกอุดม อ่ำแย้ม, ท่านรองนายกสมาน ชัชวาล, รักษาการปลัดเทศบาล (นิคม สุรเกตุ), รักษาการผอ.กองการศึกษาเทศบาล(สุวัฒน์ วรวัฒน์) และศึกษานิเทศก์อัครเดช ดอกไม้ ท่านผู้บริหารในสถานศึกษาเทศบาลเลยทั้ง 5 ท่าน คิดว่าคงเป็นเทศบาลแห่งแรกของเมืองไทย ที่ให้สถานศึกษาจัดการศึกษาทั้ง 3 ระบบครบถ้วนตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เป็นการเปิดประตูสถานศึกษาให้ประชาชนทุกเพศทุกวัย ได้เข้ามาศึกษาหาความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือนำพาชี้นำสังคมและพัฒนาสังคม พวกเราชาวกศน.เลยขอชื่นชมยินดี และพร้อมที่จะสนับสนุนในส่วนที่เกี่ยวข้อง...ครับผม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น