หนังสือสามัญประจำบ้าน อีกโครงการหนึ่งของการณรงค์ส่งเสริมการอ่านในทุกครัวเรือน
โดย บุญโชค พลดาหาญ สำนักงาน กศน.จังหวัดเลย
จากการที่สำนักงาน กศน. มีนโยบาย ที่จะ ปรับศูนย์การเรียนชุมชนในทุกตำบลให้เป็น กศน.ตำบล และให้เชิญ ส.ว.,ส.ส.มาเปิดป้าย กศน.ตำบล อย่างน้อยคนละแห่ง เพื่อให้ภาคการเมืองได้เข้าใจและเห็นความสำคัญของ กศน.ตำบล ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ของสำนักงาน กศน. ที่จะใช้ในการมีส่วนร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2552-2561) ให้ปรากฏผลในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ คือ "คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ" ประกอบกับรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดย ค.ร.ม.ได้มีมีติ ให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ, ให้วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี เป็นวันรักการอ่าน และให้ 10ปีต่อไปนี้ คือ ปี2552-2561 เป็นทศวรรษแห่งการอ่านของชาติ เพื่อขจัดการไม่รู้หนังสือ และเป็นการสร้างนิสัยรักการอ่าน การสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และจังหวัดเลยได้เปิดป้าย กศน.ตำบล ไปแล้ว ครบทุกตำบล ทั้ง 90 แห่ง ซึ่ง ส.ว. และ ส.ส.จังหวัดเลย ได้เปิดป้าย กศน.ตำบล รวม 31 แห่ง นอกนั้นเปิดป้าย กศน.ตำบล โดย ส.จ. และนายกอปท.ต่าง ๆ นับว่าได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งท่านนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล สมาชิกอบจ. สมาชิกอบต. กลุ่มพลังมวลชนต่าง ๆ ศิษย์กศน.ทั้งศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบัน ภาคีเครือข่ายต่าง ๆ และจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี
ในการขับเคลื่อน กศน.ตำบล ในนโยบายเรื่องการการอ่านที่เป็นวาระแห่งชาติ นี้
สำนักงาน กศน.จังหวัดเลย ขอเสนอโครงการที่ทำมาแล้วได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ในโครงการที่ชื่อว่า “โครงการหนังสือสามัญประจำบ้าน” เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการรณรงค์ส่งเสริมการอ่านทุกครัวเรือน เสมือนว่าเรื่องนี้เป็นหญ้าปากคอก ขอบอกว่าเรื่องนี้ได้แนวคิดมาจากยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งเป็นการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันในครอบครัว เช่น ปวดหัวก็มียาพาราเซตามอล ปวดท้องก็มียาธาตุน้ำขาว จุกเสียดแน่นท้องก็ยาธาตุน้ำแดง ถูกของมีคมทิ่มแทงก็ใช้ยาแดงและผ้าก๊อซพันแผล และถ้าเป็นลมวิงเวียนศรีษะก็มียาดมยาหม่อง ที่ทุกหลังคาเรือนล้วนต้องมีไว้ประจำบ้าน
"หนังสือสามัญประจำบ้าน" ก็มีหลักการอันเดียวกัน เป็นความรู้ที่สำคัญคู่บ้าน ที่ทุกคนทุกท่านควรจะรู้หรืออยากรู้ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อันจะประดังเข้ามาในชีวิตประจำวัน เพื่อใช้เป็นครูประจำบ้าน อันเป็นความรู้ที่จำเป็นหลากหลาย เช่นเนื้อหาในการประกอบอาชีพต่าง ๆ รวมทั้งรายละเอียดการใช้บริการหน่วยงานของรัฐ และเอกชน ทั้งกฎหมายที่ทุกคนควรรู้ การดูแลสุขภาพกายสุขภาพจิต การใช้ชีวิตที่ดีงามตามหลักธรรมของศาสนา หนังสือการ์ตูนหนังสือนิทานด้านส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมอันดี และมีหนังสือการใช้คอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ตเบื้องต้น หนังสือการตั้งชื่อคนและดูฤกษ์งามยามดีโชคชะตาราศี .เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และมีนิสัยรักการอ่าน ที่ทุกท่านทุกคนเข้าถึงง่ายเพราะมีอยู่ในทุกครัวเรือน เสมือนเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจ สงสัยอะไรมีเวลาว่างเมื่อไรจะได้เปิดอ่าน เป็นหนังสือเป็นคู่มือประจำบ้านประจำครอบครัว
กศน.เลยได้นำร่องครอบคลุมทั่วทุกอำเภออำเภอละ 1-2 ตำบล ผลเป็นที่น่าพอใจ ได้ผลิตหนังสือที่โดนใจขึ้นมาใหม่พิมพ์ไปแล้ว 6 เรื่อง(เล่ม) เป็นเล่มเล็ก ๆ บาง ๆ น่าจับน่าอ่าน คือ เมื่อเราไปสถานีตำรวจ , เมื่อเราต้องคดีความ, เมื่อเราไปอำเภอ, เมื่อเราไปติดต่อเรื่องที่ดิน, เมื่อเราไปขนส่ง และเล่มที่ 6 ฤกษ์งาม-ยามดี โชคชะตาราศี มียอดพิมพ์ครั้งแรกอยู่ที่ 40,000 เล่ม ใช้ขับเคลื่อนส่งเสริมการอ่านอยู่ในขณะนี้ ช่วงนี้รอการสนับสนุนงบประมาณขยายผลจากภาคีเครือข่ายอปท. ซึ่งได้ของบประมาณไปทุกแห่งรวมหลายล้าน เฉพาะอบจ.ก็ขอไป 7-8 ล้าน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการอนุมัติงบประมาณออกมาใช้ คาดหวังไว้ว่าภาคีเครือข่ายทุกท่านคงจะสนับสนุนด้วยดี เพราะการส่งเสริมการอ่านนี้ค.ร.ม.กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกคนทุกหน่วยงานจะต้องจัดและสนับสนุนร่วมด้วยช่วยกัน ผลตอบรับเท่าที่ฟังดูหลาย ๆ ท่านเห็นด้วยกับโครงการนี้
และกำลังผลิตหนังสือดีออกมาเพิ่มเติมอีก 2 เล่มด้วยกัน คือ "ประวัติศาสตร์ชุมชนประวัติหมู่บ้านในจังหวัดเลย" เพื่อสืบสานพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระราชินีที่เคยให้ไว้ ที่เป็นห่วงเรื่องโรงเรียนไม่มีการสอนประวัติศาสตร์ ทำให้เยาวชนขาดจิตสำนึก ขาดความภาคภูมิใจในความเป็นไทย จึงได้รวบรวมมาได้ 916 หมู่บ้าน 20 กว่าชุมชน โดยเริ่มต้นจากการรวบรวมที่ผู้ใหญ่บ้านผู้เฒ่าผู้แก่แต่ละหมู่บ้านมีอยู่ ควบคู่กับที่นักวิชาการรวบรวมไว้ นำมาจัดเวทีเสวนาชำระความถูกต้องเป็นรายหมู่บ้าน โดยการเสวนาระหว่างผู้รู้ในแต่ละหมู่บ้านและชาวบ้านทั้งหลาย กับนักวิชาการนักโบราณคดีนักประวัติศาสตร์จนเป็นที่พอใจว่าถูกต้อง ช่วยกันกรองช่วยกันดูจนมั่นใจ แล้วจึงนำไปพิมพ์ให้เป็นรูปเล่ม และพิมพ์ในแผ่นไวนิลให้ทุกหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนได้อ่านกันโดยทั่วกัน และอีกเล่มนั้นชื่อว่า "เมืองเลยที่เรารัก" ซึ่งรวบรวมของดี หลัก ๆ ที่มีและประวัติศาสตร์เมืองเลยมาเผยแพร่
หวังว่าหนังสือสามัญประจำบ้านนี้ จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการอ่านได้เป็นอย่างดี และสิ่งที่หวังไว้ปลายทาง คือ “การสร้างสังคมให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้” และ “แก้ปัญหาอมตะคนชนบทที่ผู้คนทั้งหลายกล่าวถึงตลอดมา คือ โง่ จน เจ็บ" ครับผม
วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2551
การส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ของจังหวัดเลย
การส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ของจังหวัดเลย
โดย บุญโชค พลดาหาญ รองผอ।สำนักงานกศน.จ.เลย
จากการที่สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2551 พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ.2551 ได้มีผลบังคับใช้ ปรับเปลี่ยนเป็นสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีนโยบายให้พัฒนาห้องสมุดประชาชน ให้เป็นห้องสมุดมีชีวิต ปรับภารกิจห้องสมุดให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อรองรับความต้องการเรียนรู้ของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาตามอัธยาศัย ขยายขอบข่ายงานบริการให้ถึงประชาชนในพื้นที่เชิงรุก ให้ถึงกลุ่มเป้าหมายโดยทำงานร่วมกับเครือข่าย นั้น
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเลย(สำนักงานกศน.จังหวัดเลย) โดยการนำของว่าที่ร้อยตรีสมปอง วิมาโร ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเลย ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเลย และนายบุญโชค พลดาหาญ รองผู้อำนวยการฯ ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานและขับเคลื่อนให้สถานศึกษาและห้องสมุดประชาชนในสังกัดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ดังนี้
1. ให้มีการปรับปรุงคณะกรรมการห้องสมุดประชาชนให้เป็นปัจจุบัน โดยประสานเครือข่ายมาร่วมเป็นกรรมการ ให้ผู้อำนวยการศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอนั้น ๆ เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชนเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ให้มีการประชุมคณะกรรมการอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้งตามรายไตรมาส เพื่อรับรู้รับทราบผลการปฏิบัติงาน และกำหนดทิศทางแนวทางในการดำเนินงาน พัฒนางานห้องสมุดประชาชน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของห้องสมุดประชาชน มีการจัดทำแผนพัฒนาห้องสมุด และแผนปฏิบัติงานประจำปี เพื่อใช้ประสานผู้ที่เกี่ยวและเครือข่ายทั้งหลายรับรู้รับทราบและร่วมดำเนินการต่อไป
२. กศน.เลย ได้พัฒนางานห้องสมุดประชาชน โดยทำห้องสมุดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต (LLL PLAZA : LOEI LIFELONG LEARNING PLAZA) ทำห้องสมุดให้เหมือนบ้านที่ผู้มาใช้บริการมีความสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน พัฒนาให้เหมือนศูนย์การค้าร้านสะดวกซื้อทั้งหลาย เข้าง่ายออกง่าย มีความร่มรื่นสวยงาม โดดเด่นสะดุดตา จัดวางหนังสือและสื่อต่าง ๆ โชว์ให้เห็นและจับต้องได้ง่าย เป็นหมวดหมู่ ได้ปรับปรุงห้องสมุดประชาชนให้มีห้องและมุมต่าง ๆ ที่หลากหลาย เพื่อเป็นระบบและสะดวกในการใช้บริการ มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดระบบข้อมูลสารสนเทศและการให้บริการที่รวดเร็วทันใจ โดยเปิดบริการตั้งแต่เวลา 08।30 – 19.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
3. มีการสรรหาบรรณารักษ์จากผู้ที่จบในวิชาเอกบรรณารักษ์โดยตรง โดยการประสานขอข้อมูลเชิงลึกจากมหาวิทยาลัยราชภัฎเลยซึ่งเป็นสถาบันผลิตบรรณารักษ์ เพื่อให้เลือกเฟ้นศิษย์ที่ดีที่สุดมาให้คณะกรรมการประกอบการพิจารณา เน้นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและศรัทธาในวิชาชีพบรรณารักษ์ มีบุคลิกภาพดี มีจิตบริการ ยิ้มแย้มแจ่มใส ตามสโลแกนที่กำหนดไว้ คือต้องเป็นคนที่ “ยิ้มงาม ถามไถ่ ไขข้อข้องใจ ฉับไวบริการ เป็นนักประสานงานที่ดี” ห้องสมุดประชาชนนั้นเปรียบเสมือนหน้าต่างของกศน. เพราะมีผู้คนทุกระดับทุกอาชีพมาใช้บริการ ให้บรรณารักษ์ให้ความสำคัญแก่ลูกค้าเป็นสำคัญ เพราะลูกค้าของห้องสมุดนั้นหลากหลาย มีทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการในวิชาชีพต่าง ๆ รวมทั้งผู้ใฝ่รู้ และผู้ด้อยผู้พลาดผู้ขาดโอกาสทั้งหลาย ให้ผู้รับบริการได้มีส่วนร่วมเสนอแนะการพัฒนา เสนอปัญหาและความต้องการได้หลากหลายวิธี ทั้งโดยวิธีพูด การเขียนบันทึกในสมุดบันทึกแสดงความคิดเห็นที่จัดไว้ หรือการเขียนใส่ในกล่องรับฟังความคิดเห็น เพื่อนำประเด็นต่างๆที่ได้มาพิจารณาดำเนินการต่อไป มีการพัฒนาบุคลากรห้องสมุด โดยการประชุม อบรม สัมมนา ศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีการประเมินบรรณารักษ์ทุกปี โดยใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง เพื่อให้ได้บรรณารักษ์ที่ดีที่สุดในการทำงาน เพราะงานห้องสมุดประชาชนจะดีหรือไม่ บรรณารักษ์มีความสำคัญที่สุด
4.ได้ประสานองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลยซึ่งมีนายธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ เป็นนายกอบจ. เพื่อร่วมกันจัดและพัฒนาห้องสมุดประชาชนของจังหวัดเลยทั้ง 14 อำเภอ ให้มีศูนย์คอมพิวเตอร์ในการให้บริการคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตแก่ประชาชน รวมทั้งให้มีห้องสำหรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ภายในห้องสมุดประชาชนทุกอำเภอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นเงินถึง 20 ล้าน 7 แสนกว่าบาท โดยมุ่งเน้นให้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องมาเรียนคอมพิวเตอร์ คือ นักศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของกศน. กลุ่มผู้นำท้องถิ่นและกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้งหลาย กลุ่มหัวหน้าส่วนราชการหัวหน้าหน่วยงานและบุคลากรในสังกัดทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งกลุ่มผู้ที่สนใจโดยทั่วไป และทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลยมีแผนที่จะสนับสนุนงานห้องสมุดประชาชนในปี 2551 คือ ขยายต่อเติมอาคารห้องสมุดประชาชนทุกอำเภอให้กว้างขึ้น จัดซื้อหนังสือสื่อต่างๆให้แก่ห้องสมุดประชาชนและศูนย์การเรียนชุมชนทุกแห่ง ในการบริการแก่พี่น้องประชาชน ต่อไป
5. กำหนดให้ห้องสมุดประชาชนทุกแห่งมีแผนการจัดกิจกรรมภายในห้องสมุดและบริเวณภายนอกห้องสมุดที่หลากหลายเป็นระยะ ๆ ไปตามช่วงฤดูกาลและความสนใจของผู้รับบริการตามความเหมาะสม เพื่อให้ห้องสมุดมีชีวิตชีวา บริการตอบสนองต่อสังคมได้เป็นอย่างดี เช่น การสอนวิชาชีพต่างๆ หลักสูตรระยะสั้น ๆ ที่ใช้เวลาไม่นาน การแข่งขันทักษะการอ่าน,การประกวดการเล่านิทานสร้างสานคุณธรรม,กิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย,กิจกรรมผู้เฒ่าเล่าเรื่องเมืองเลย, นิทรรศการวันสำคัญต่าง ๆ เป็นต้น
6. กำหนดให้ครูศูนย์การเรียนชุมชนทุกคน เป็นคณะทำงานห้องสมุดประชาชนในอำเภอที่ปฏิบัติงาน เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในเชิงรุกในพื้นที่ เช่น
โครงการกระเป๋าหนังสือสู่ชุมชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสครองราชย์ ครบ 60 ปีโดยจัดทำกระเป๋าหนังสือจำนวน 999 ใบ เพื่อมอบให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ครูกศน. ทุกคน นำหนังสือและสื่อต่างๆไปบริการแก่ประชาชนโดยหมุนเวียนหนังสือและสื่อเดือนละครั้งในวันมาประชุมประจำเดือนที่อำเภอ ซึ่งโครงการนี้จะพัฒนาเป็นโครงการหนังสือสามัญประจำบ้าน โดยขอให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบล รวมทั้งเทศบาลต่าง ๆ จัดซื้อหนังสือดีมีสาระที่ประชาชนแต่ละครอบครัวจำเป็นต้องรู้หรือน่าสนใจ เช่น หนังสือกฎหมายประจำครอบครัว หนังสือคู่มือแนวปฏิบัติการติดต่องานของส่วนราชการหน่วยงานต่าง ๆ หนังสือวิชาชีพที่น่าสนใจ หนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและข้อคิดคติเตือนใจต่าง ๆ หนังสือการตั้งชื่อและการทำนายโชคชะตาราศี การกำหนดวันเวลาฤกษ์มงคลในการทำพิธีกรรมต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสนใจอ่านหนังสือมากขึ้น เพราะเป็นหนังสือที่โดนใจที่แต่ละคนสนใจอยากรู้อยากอ่าน
การสำรวจและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ต่างๆเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ของห้องสมุดประชาชนอย่างน้อยอำเภอละ 10 แห่ง, การนำหนังสือจากห้องสมุดประชาชนไปบริการภายในศูนย์การเรียนชุมชนเพื่อบริการนักศึกษาและประชาชนทั่วไป
การให้นักศึกษาการศึกษานอกโรงเรียนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นสมาชิกห้องสมุดประชาชน, การนำนักศึกษาเข้ามาเรียนคอมพิวเตอร์ และมาเรียนรู้การใช้ห้องสมุด การค้นคว้าในห้องสมุดประชาชน, การมอบให้นักศึกษาไปศึกษาเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เป็นต้น
การจัดทำโครงการส่งเสริมการอ่านและเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลความรู้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยการทำชั้นหนังสือและนำหนังสือสื่อความรู้ข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ไปไว้ตามหน่วยงานสถานที่ที่ร่วมโครงการ เช่น ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ โรงพยาบาล สถานีอนามัย สำนักงานทะเบียนราษฎร์ สำนักงานที่ดิน ท่ารถโดยสาร ห้างร้าน ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นต้น
จัดโครงการห้องสมุดประชาชนเคลื่อนที่ร่วมกับสถานศึกษาในสังกัดอื่นๆ,และร่วมกับโครงการจังหวัดเคลื่อนที่อำเภอเคลื่อนที่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอเคลื่อนที่ เป็นต้น
7.ได้ให้ครูศูนย์การเรียนชุมชน(ครูศรช.)ทุกคน สำรวจแหล่งเรียนรู้ที่ดีเด่นในเรื่องต่าง ๆ ที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี อำเภอละอย่างน้อย 10 แห่ง เพื่อทำทำเนียบแหล่งเรียนรู้เป็นข้อมูลสารสนเทศเผยแพร่ในศูนย์การเรียนชุมชน ในห้องสมุดประชาชน และพัฒนาไปสู่การจัดทำวิดีทัศน์ในการเผยแพร่ในแหล่งเรียนรู้นั้น ๆ ตลอดจนเผยแพร่ที่ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ห้องสมุดประชาชน เผยแพร่ผ่านสื่อสารมวลชนต่างๆและทางอินเทอร์เน็ต ให้มีการเชื่อมโยงองค์ความรู้ในทุกระดับ การส่งเสริมสนับสนุนให้แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ในชุมชนมีการพัฒนาและบริการแก่ชุมชนอย่างกว้างขวางแพร่หลาย โดยการจัดประชุมสัมมนาสร้างความตระหนัก ให้เห็นความสำคัญความดีงามของแหล่งเรียนรู้ การร่วมรับผิดชอบต่อสังคม การยกย่องให้เกียรติให้รางวัลต่างๆ มีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบอย่างกว้างขวางและทั่วถึง ถึงแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ให้ครูกศน.นำนักศึกษาเข้าไปเรียนรู้และจัดทำรายงานถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้สิ่งที่ได้ และสิ่งที่จะนำไปใช้ต่อไป
8. ให้นักศึกษากศน.หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกคนเป็นสมาชิกห้องสมุดประชาชนเพื่อเรียนรู้การใช้ห้องสมุด และศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองจากห้องสมุดประชาชน เป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน รักการศึกษาค้นคว้าเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต
9. พัฒนาศูนย์การเรียนชุมชนให้เป็นศูนย์สื่อ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นสถานที่พบกลุ่มนักศึกษา และการเรียนรู้ของประชาชนที่มีความเพียบพร้อมด้วยสื่อ และมีบรรยากาศการส่งเสริมการเรียนรู้ โดยการประสานงานขอรับการสนับสนุนงบประมาณและร่วมดำเนินการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้ท้องถิ่นเข้ามาเป็นเจ้าของในการบริหารจัดการ มีการจัดตั้งคณะกรรมการศูนย์การเรียนชุมชนที่ประกอบด้วยภาคีเครือข่ายต่างๆ และเป็นปัจจุบัน มีการประชุมกันอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อขับเคลื่อนศูนย์การเรียนชุมชนให้เป็นไปตามทิศทางที่กำหนด
10. จัดโครงการค่ายรักการอ่าน ร่วมกับ เซเว่นอีเลฟเว่น ซีพี จำกัดและสถานศึกษา สังกัดเขต
พื้นที่การศึกษาเลย มีการจัดตั้งชมรมรักการอ่านดำเนินการร่วมกัน
11. จัดโครงการบ้านหลังเรียน ร่วมกับสถาบันรามจิตติและศูนย์เบิ่งแยงลูกอีสาน เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาจากสถานศึกษาต่าง ๆ มีที่อยู่และทำกิจกรรมต่าง ๆ ในการศึกษาหาความรู้หลังจากเลิกเรียนแล้ว มีมุมทำการบ้าน มุมรอผู้ปกครอง มุมสืบค้นอินเทอร์เน็ต มุมบันเทิงศึกษา มุมสื่อมัลติมีเดีย ซึ่งกิจกรรมที่จัด เช่น การเรียนคอมพิวเตอร์โปรแกรมต่างๆ, การประดิษฐ์การ์ดอวยพร, การเรียนทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์, การทำดอกไม้ประดิษฐ์, การแข่งขันการเล่านิทานส่งเสริมคุณธรรม นิทานพื้นบ้าน, การประกวดการเขียนเรียงความ,การวาดภาพ การร้องเพลง การเล่นดนตรี เป็นต้น ที่ห้องสมุดประชาชนจังหวัดเลย และห้องสมุดประชาชนอำเภออื่นๆที่มีความพร้อม ตลอดเครือข่ายต่าง ๆ ที่ร่วมดำเนินการ เป็นต้น
และได้จัดเตรียมความพร้อมบุคลากรให้มีความพร้อมในการส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ของประชาชนตาม พรบ.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้ได้มากที่สุด
ผลของการดำเนินการอยู่ในระดับน่าพอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งจะต้องมีการขับเคลื่อนร่วมกันต่อไป ขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกท่านทุกหน่วยงานที่ร่วมกันดำเนินการเป็นอย่างดี ไว้ ณ โอกาสนี้ขอเชิญทุกท่านมาร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนา และศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆซึ่งมีอยู่มากมายในจังหวัดเลยของเรา ครับผม
โดย บุญโชค พลดาหาญ รองผอ।สำนักงานกศน.จ.เลย
จากการที่สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2551 พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ.2551 ได้มีผลบังคับใช้ ปรับเปลี่ยนเป็นสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีนโยบายให้พัฒนาห้องสมุดประชาชน ให้เป็นห้องสมุดมีชีวิต ปรับภารกิจห้องสมุดให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อรองรับความต้องการเรียนรู้ของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาตามอัธยาศัย ขยายขอบข่ายงานบริการให้ถึงประชาชนในพื้นที่เชิงรุก ให้ถึงกลุ่มเป้าหมายโดยทำงานร่วมกับเครือข่าย นั้น
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเลย(สำนักงานกศน.จังหวัดเลย) โดยการนำของว่าที่ร้อยตรีสมปอง วิมาโร ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเลย ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเลย และนายบุญโชค พลดาหาญ รองผู้อำนวยการฯ ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานและขับเคลื่อนให้สถานศึกษาและห้องสมุดประชาชนในสังกัดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ดังนี้
1. ให้มีการปรับปรุงคณะกรรมการห้องสมุดประชาชนให้เป็นปัจจุบัน โดยประสานเครือข่ายมาร่วมเป็นกรรมการ ให้ผู้อำนวยการศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอนั้น ๆ เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชนเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ให้มีการประชุมคณะกรรมการอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้งตามรายไตรมาส เพื่อรับรู้รับทราบผลการปฏิบัติงาน และกำหนดทิศทางแนวทางในการดำเนินงาน พัฒนางานห้องสมุดประชาชน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของห้องสมุดประชาชน มีการจัดทำแผนพัฒนาห้องสมุด และแผนปฏิบัติงานประจำปี เพื่อใช้ประสานผู้ที่เกี่ยวและเครือข่ายทั้งหลายรับรู้รับทราบและร่วมดำเนินการต่อไป
२. กศน.เลย ได้พัฒนางานห้องสมุดประชาชน โดยทำห้องสมุดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต (LLL PLAZA : LOEI LIFELONG LEARNING PLAZA) ทำห้องสมุดให้เหมือนบ้านที่ผู้มาใช้บริการมีความสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน พัฒนาให้เหมือนศูนย์การค้าร้านสะดวกซื้อทั้งหลาย เข้าง่ายออกง่าย มีความร่มรื่นสวยงาม โดดเด่นสะดุดตา จัดวางหนังสือและสื่อต่าง ๆ โชว์ให้เห็นและจับต้องได้ง่าย เป็นหมวดหมู่ ได้ปรับปรุงห้องสมุดประชาชนให้มีห้องและมุมต่าง ๆ ที่หลากหลาย เพื่อเป็นระบบและสะดวกในการใช้บริการ มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดระบบข้อมูลสารสนเทศและการให้บริการที่รวดเร็วทันใจ โดยเปิดบริการตั้งแต่เวลา 08।30 – 19.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
3. มีการสรรหาบรรณารักษ์จากผู้ที่จบในวิชาเอกบรรณารักษ์โดยตรง โดยการประสานขอข้อมูลเชิงลึกจากมหาวิทยาลัยราชภัฎเลยซึ่งเป็นสถาบันผลิตบรรณารักษ์ เพื่อให้เลือกเฟ้นศิษย์ที่ดีที่สุดมาให้คณะกรรมการประกอบการพิจารณา เน้นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและศรัทธาในวิชาชีพบรรณารักษ์ มีบุคลิกภาพดี มีจิตบริการ ยิ้มแย้มแจ่มใส ตามสโลแกนที่กำหนดไว้ คือต้องเป็นคนที่ “ยิ้มงาม ถามไถ่ ไขข้อข้องใจ ฉับไวบริการ เป็นนักประสานงานที่ดี” ห้องสมุดประชาชนนั้นเปรียบเสมือนหน้าต่างของกศน. เพราะมีผู้คนทุกระดับทุกอาชีพมาใช้บริการ ให้บรรณารักษ์ให้ความสำคัญแก่ลูกค้าเป็นสำคัญ เพราะลูกค้าของห้องสมุดนั้นหลากหลาย มีทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการในวิชาชีพต่าง ๆ รวมทั้งผู้ใฝ่รู้ และผู้ด้อยผู้พลาดผู้ขาดโอกาสทั้งหลาย ให้ผู้รับบริการได้มีส่วนร่วมเสนอแนะการพัฒนา เสนอปัญหาและความต้องการได้หลากหลายวิธี ทั้งโดยวิธีพูด การเขียนบันทึกในสมุดบันทึกแสดงความคิดเห็นที่จัดไว้ หรือการเขียนใส่ในกล่องรับฟังความคิดเห็น เพื่อนำประเด็นต่างๆที่ได้มาพิจารณาดำเนินการต่อไป มีการพัฒนาบุคลากรห้องสมุด โดยการประชุม อบรม สัมมนา ศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีการประเมินบรรณารักษ์ทุกปี โดยใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง เพื่อให้ได้บรรณารักษ์ที่ดีที่สุดในการทำงาน เพราะงานห้องสมุดประชาชนจะดีหรือไม่ บรรณารักษ์มีความสำคัญที่สุด
4.ได้ประสานองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลยซึ่งมีนายธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ เป็นนายกอบจ. เพื่อร่วมกันจัดและพัฒนาห้องสมุดประชาชนของจังหวัดเลยทั้ง 14 อำเภอ ให้มีศูนย์คอมพิวเตอร์ในการให้บริการคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตแก่ประชาชน รวมทั้งให้มีห้องสำหรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ภายในห้องสมุดประชาชนทุกอำเภอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นเงินถึง 20 ล้าน 7 แสนกว่าบาท โดยมุ่งเน้นให้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องมาเรียนคอมพิวเตอร์ คือ นักศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของกศน. กลุ่มผู้นำท้องถิ่นและกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้งหลาย กลุ่มหัวหน้าส่วนราชการหัวหน้าหน่วยงานและบุคลากรในสังกัดทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งกลุ่มผู้ที่สนใจโดยทั่วไป และทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลยมีแผนที่จะสนับสนุนงานห้องสมุดประชาชนในปี 2551 คือ ขยายต่อเติมอาคารห้องสมุดประชาชนทุกอำเภอให้กว้างขึ้น จัดซื้อหนังสือสื่อต่างๆให้แก่ห้องสมุดประชาชนและศูนย์การเรียนชุมชนทุกแห่ง ในการบริการแก่พี่น้องประชาชน ต่อไป
5. กำหนดให้ห้องสมุดประชาชนทุกแห่งมีแผนการจัดกิจกรรมภายในห้องสมุดและบริเวณภายนอกห้องสมุดที่หลากหลายเป็นระยะ ๆ ไปตามช่วงฤดูกาลและความสนใจของผู้รับบริการตามความเหมาะสม เพื่อให้ห้องสมุดมีชีวิตชีวา บริการตอบสนองต่อสังคมได้เป็นอย่างดี เช่น การสอนวิชาชีพต่างๆ หลักสูตรระยะสั้น ๆ ที่ใช้เวลาไม่นาน การแข่งขันทักษะการอ่าน,การประกวดการเล่านิทานสร้างสานคุณธรรม,กิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย,กิจกรรมผู้เฒ่าเล่าเรื่องเมืองเลย, นิทรรศการวันสำคัญต่าง ๆ เป็นต้น
6. กำหนดให้ครูศูนย์การเรียนชุมชนทุกคน เป็นคณะทำงานห้องสมุดประชาชนในอำเภอที่ปฏิบัติงาน เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในเชิงรุกในพื้นที่ เช่น
โครงการกระเป๋าหนังสือสู่ชุมชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสครองราชย์ ครบ 60 ปีโดยจัดทำกระเป๋าหนังสือจำนวน 999 ใบ เพื่อมอบให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ครูกศน. ทุกคน นำหนังสือและสื่อต่างๆไปบริการแก่ประชาชนโดยหมุนเวียนหนังสือและสื่อเดือนละครั้งในวันมาประชุมประจำเดือนที่อำเภอ ซึ่งโครงการนี้จะพัฒนาเป็นโครงการหนังสือสามัญประจำบ้าน โดยขอให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบล รวมทั้งเทศบาลต่าง ๆ จัดซื้อหนังสือดีมีสาระที่ประชาชนแต่ละครอบครัวจำเป็นต้องรู้หรือน่าสนใจ เช่น หนังสือกฎหมายประจำครอบครัว หนังสือคู่มือแนวปฏิบัติการติดต่องานของส่วนราชการหน่วยงานต่าง ๆ หนังสือวิชาชีพที่น่าสนใจ หนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและข้อคิดคติเตือนใจต่าง ๆ หนังสือการตั้งชื่อและการทำนายโชคชะตาราศี การกำหนดวันเวลาฤกษ์มงคลในการทำพิธีกรรมต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสนใจอ่านหนังสือมากขึ้น เพราะเป็นหนังสือที่โดนใจที่แต่ละคนสนใจอยากรู้อยากอ่าน
การสำรวจและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ต่างๆเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ของห้องสมุดประชาชนอย่างน้อยอำเภอละ 10 แห่ง, การนำหนังสือจากห้องสมุดประชาชนไปบริการภายในศูนย์การเรียนชุมชนเพื่อบริการนักศึกษาและประชาชนทั่วไป
การให้นักศึกษาการศึกษานอกโรงเรียนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นสมาชิกห้องสมุดประชาชน, การนำนักศึกษาเข้ามาเรียนคอมพิวเตอร์ และมาเรียนรู้การใช้ห้องสมุด การค้นคว้าในห้องสมุดประชาชน, การมอบให้นักศึกษาไปศึกษาเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เป็นต้น
การจัดทำโครงการส่งเสริมการอ่านและเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลความรู้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยการทำชั้นหนังสือและนำหนังสือสื่อความรู้ข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ไปไว้ตามหน่วยงานสถานที่ที่ร่วมโครงการ เช่น ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ โรงพยาบาล สถานีอนามัย สำนักงานทะเบียนราษฎร์ สำนักงานที่ดิน ท่ารถโดยสาร ห้างร้าน ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นต้น
จัดโครงการห้องสมุดประชาชนเคลื่อนที่ร่วมกับสถานศึกษาในสังกัดอื่นๆ,และร่วมกับโครงการจังหวัดเคลื่อนที่อำเภอเคลื่อนที่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอเคลื่อนที่ เป็นต้น
7.ได้ให้ครูศูนย์การเรียนชุมชน(ครูศรช.)ทุกคน สำรวจแหล่งเรียนรู้ที่ดีเด่นในเรื่องต่าง ๆ ที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี อำเภอละอย่างน้อย 10 แห่ง เพื่อทำทำเนียบแหล่งเรียนรู้เป็นข้อมูลสารสนเทศเผยแพร่ในศูนย์การเรียนชุมชน ในห้องสมุดประชาชน และพัฒนาไปสู่การจัดทำวิดีทัศน์ในการเผยแพร่ในแหล่งเรียนรู้นั้น ๆ ตลอดจนเผยแพร่ที่ศูนย์การเรียนชุมชน ที่ห้องสมุดประชาชน เผยแพร่ผ่านสื่อสารมวลชนต่างๆและทางอินเทอร์เน็ต ให้มีการเชื่อมโยงองค์ความรู้ในทุกระดับ การส่งเสริมสนับสนุนให้แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ในชุมชนมีการพัฒนาและบริการแก่ชุมชนอย่างกว้างขวางแพร่หลาย โดยการจัดประชุมสัมมนาสร้างความตระหนัก ให้เห็นความสำคัญความดีงามของแหล่งเรียนรู้ การร่วมรับผิดชอบต่อสังคม การยกย่องให้เกียรติให้รางวัลต่างๆ มีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบอย่างกว้างขวางและทั่วถึง ถึงแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ให้ครูกศน.นำนักศึกษาเข้าไปเรียนรู้และจัดทำรายงานถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้สิ่งที่ได้ และสิ่งที่จะนำไปใช้ต่อไป
8. ให้นักศึกษากศน.หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกคนเป็นสมาชิกห้องสมุดประชาชนเพื่อเรียนรู้การใช้ห้องสมุด และศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองจากห้องสมุดประชาชน เป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน รักการศึกษาค้นคว้าเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต
9. พัฒนาศูนย์การเรียนชุมชนให้เป็นศูนย์สื่อ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นสถานที่พบกลุ่มนักศึกษา และการเรียนรู้ของประชาชนที่มีความเพียบพร้อมด้วยสื่อ และมีบรรยากาศการส่งเสริมการเรียนรู้ โดยการประสานงานขอรับการสนับสนุนงบประมาณและร่วมดำเนินการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้ท้องถิ่นเข้ามาเป็นเจ้าของในการบริหารจัดการ มีการจัดตั้งคณะกรรมการศูนย์การเรียนชุมชนที่ประกอบด้วยภาคีเครือข่ายต่างๆ และเป็นปัจจุบัน มีการประชุมกันอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อขับเคลื่อนศูนย์การเรียนชุมชนให้เป็นไปตามทิศทางที่กำหนด
10. จัดโครงการค่ายรักการอ่าน ร่วมกับ เซเว่นอีเลฟเว่น ซีพี จำกัดและสถานศึกษา สังกัดเขต
พื้นที่การศึกษาเลย มีการจัดตั้งชมรมรักการอ่านดำเนินการร่วมกัน
11. จัดโครงการบ้านหลังเรียน ร่วมกับสถาบันรามจิตติและศูนย์เบิ่งแยงลูกอีสาน เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาจากสถานศึกษาต่าง ๆ มีที่อยู่และทำกิจกรรมต่าง ๆ ในการศึกษาหาความรู้หลังจากเลิกเรียนแล้ว มีมุมทำการบ้าน มุมรอผู้ปกครอง มุมสืบค้นอินเทอร์เน็ต มุมบันเทิงศึกษา มุมสื่อมัลติมีเดีย ซึ่งกิจกรรมที่จัด เช่น การเรียนคอมพิวเตอร์โปรแกรมต่างๆ, การประดิษฐ์การ์ดอวยพร, การเรียนทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์, การทำดอกไม้ประดิษฐ์, การแข่งขันการเล่านิทานส่งเสริมคุณธรรม นิทานพื้นบ้าน, การประกวดการเขียนเรียงความ,การวาดภาพ การร้องเพลง การเล่นดนตรี เป็นต้น ที่ห้องสมุดประชาชนจังหวัดเลย และห้องสมุดประชาชนอำเภออื่นๆที่มีความพร้อม ตลอดเครือข่ายต่าง ๆ ที่ร่วมดำเนินการ เป็นต้น
และได้จัดเตรียมความพร้อมบุคลากรให้มีความพร้อมในการส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ของประชาชนตาม พรบ.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้ได้มากที่สุด
ผลของการดำเนินการอยู่ในระดับน่าพอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งจะต้องมีการขับเคลื่อนร่วมกันต่อไป ขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกท่านทุกหน่วยงานที่ร่วมกันดำเนินการเป็นอย่างดี ไว้ ณ โอกาสนี้ขอเชิญทุกท่านมาร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนา และศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆซึ่งมีอยู่มากมายในจังหวัดเลยของเรา ครับผม
วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2551
สภาพการดำเนินงานตามภารกิจด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ ของครู ประจำศูนย์การเรียนชุมชน สังกัดศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเลย
บุญโชค พลดาหาญ : สภาพการดำเนินงานตามภารกิจด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ ของครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน สังกัดศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเลย
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินงานตามภารกิจด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ ของครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน สังกัดศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเลย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้ใช้กลุ่มประชากร คือ ครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน ซึ่งมีทั้งสิ้น จำนวน 90 คน เครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม มีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการและแบบมาตราส่วนประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS for Windows
ผลการวิจัย มีดังนี้
1 สภาพการดำเนินงานตามภารกิจด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ ของครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน สังกัดศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเลย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
2 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า สภาพการดำเนินงานตามภารกิจของครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการประชาสัมพันธ์ รองลงมาคือ ด้านการปฐมนิเทศ ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตามลำดับ ส่วนด้าน ที่มีสภาพการดำเนินงานตามภารกิจของครูประจำศูนย์การเรียนชุมชนต่ำที่สุด คือ ด้านการวางแผนการจัดการเรียนรู้
รายละเอียดฉบับสมบูรณ์ ดูได้ที่ห้องสมุดประชาชนในจังหวัดเลยทุกแห่งทุกอำเภอ ครับผม
จาก นายบุญโชค พลดาหาญ
ผู้วิจัย
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินงานตามภารกิจด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ ของครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน สังกัดศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเลย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้ใช้กลุ่มประชากร คือ ครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน ซึ่งมีทั้งสิ้น จำนวน 90 คน เครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม มีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการและแบบมาตราส่วนประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS for Windows
ผลการวิจัย มีดังนี้
1 สภาพการดำเนินงานตามภารกิจด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ ของครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน สังกัดศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเลย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
2 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า สภาพการดำเนินงานตามภารกิจของครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการประชาสัมพันธ์ รองลงมาคือ ด้านการปฐมนิเทศ ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตามลำดับ ส่วนด้าน ที่มีสภาพการดำเนินงานตามภารกิจของครูประจำศูนย์การเรียนชุมชนต่ำที่สุด คือ ด้านการวางแผนการจัดการเรียนรู้
รายละเอียดฉบับสมบูรณ์ ดูได้ที่ห้องสมุดประชาชนในจังหวัดเลยทุกแห่งทุกอำเภอ ครับผม
จาก นายบุญโชค พลดาหาญ
ผู้วิจัย
วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551
เชิญชมเว็ปเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา80พรรษา
เชิญชมเว็ปเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา80พรรษา
ลิงก์คลิ๊กที่นี่ http://www.80thbirthdayanniversary.go.th/th/th/index.php
ลิงก์คลิ๊กที่นี่ http://www.80thbirthdayanniversary.go.th/th/th/index.php
วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2551
วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2550
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)